นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท นิราวิลเลจ จำกัด และ บริษัท นิราวิลล์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เคารพความเป็นส่วนตัวและตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของทุกท่าน บริษัทจึงมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และมาตรการการดำเนินงานที่รัดกุม เพื่อป้องกันการเข้าถึง เปิดเผยนำไปใช้หรือเปลี่ยนแปลง ข้อมูลของท่านโดยมิได้รับอนุญาต
บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันประกอบไปด้วย ข้อมูลแสดงตัวตน (identity data): หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด เพศ เลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขใบขับขี่ หมายเลขหนังสือเดินทาง สถานภาพการสมรส เป็นต้น
ข้อมูลติดต่อ (contact data): เช่น ที่อยู่ อีเมล์ หมายเลขโทรศัพท์
ข้อมูลอ่อนไหว (sensitive data): เช่น ข้อมูลเชื้อชาติ ความเชื่อ ศาสนา ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลชีวมิติ (biometric data) เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทจะไม่ทำการประมวลผลข้อมูลอ่อนไหวทุกประเภท
ข้อมูลทางการเงิน (financial and transaction data): หมายเลขบัญชี หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขบัตรเดบิต ข้อมูลรายได้ต่อเดือน ข้อมูลการชำระเงิน เป็นต้น
ข้อมูลทางเทคนิคและการใช้งาน (technical and usage data): หมายเลข IP Address ข้อมูลการเข้าสู่ระบบข้อมูลการค้นหา (website browsing) จากการใช้ข้อมูล Cookie ID ประเภทอุปกรณ์การตั้งค่า แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา
ข้อมูลสิ่งที่ท่านสนใจ (profile data): ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านในการแจ้งซ่อมออนไลน์ ประกาศเสนอขายที่ดิน หรือสมัครงาน ข้อมูลความสนใจ ความชอบ งบประมาณ เหตุผลในการเลือกซื้อสินค้า และข้อมูลความเห็นจากการตอบแบบสำรวจ
ข้อมูลการตลาดและการสื่อสาร (marketing and communication data): การตั้งค่าของท่านในการรับข้อมูลการตลาดจากบริษัท และบุคคลที่สาม (third party) รวมถึงข้อมูลการติดต่อกับบริษัท เช่น เทปบันทึกกรณีที่ท่านติดต่อเข้ามาทาง call center หรือผ่านทางช่องทาง social media อื่น ๆ เป็นต้น
ข้อมูลที่ท่านจำเป็นต้องให้ไว้กับบริษัท และบริษัทสามารถเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยประมวลผลของมูลส่วนบุคคลนั้นได้ตามที่กฎหมายกำหนดโดย ไม่ต้องขอความยินยอม ได้แก่
•ข้อมูลที่ท่านให้ไว้เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือ สัญญา หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลเพื่อเข้าทำสัญญาหรือข้อมูลอื่นใดตามที่กฎหมาย กำหนด ซึ่งหากท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวเหล่านี้กับบริษัท บริษัทจะไม่สามารถดำเนินการตามที่ท่านประสงค์ หรือตามที่บริษัทได้แจ้งไว้ต่อท่าน หรือดำเนินการตามกฎหมายอื่นๆ
•การให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น การเก็บภาพของท่านในการจัดกิจกรรมต่างๆ การบันทึกภาพของท่าน ผ่านกล้อง CCTV เป็นต้น
นอกจากนี้ เรายังมีการรวบรวม ใช้ และ เปิดเผย ข้อมูลโดยรวม เช่น ข้อมูลเชิงสถิติ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของ บุคคลได้ เพื่อคำนวณอัตราของผู้ที่เข้าถึงเว็บไซต์ของเรา หรือทำข้อมูลเชิงสถิติต่างๆ และหากข้อมูลสามารถกลับมาระบุตัวตนได้ เราจะถือว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งจะถูกใช้ตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้
วิธีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
•ผ่านช่องทางของต่างๆ ของบริษัท อาทิ เอกสาร ทางอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยวาจา
•ผ่านทางช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ของผู้ให้บริการอื่น
การเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บไซต์อื่น (Third-party Links)
ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้จะสิ้นสุดลง เมื่อท่านคลิกลิงก์จากเว็บไซต์ของเราเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น ซึ่งถือว่าท่านได้สิ้นสุดการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ของเราแล้ว ในกรณีที่เว็บไซต์อื่นมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์ต่อความเป็นส่วนตัวของท่าน เราขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวของทุกเว็บไซต์ที่ท่านเข้าเยี่ยมชม
2. เหตุผลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน
บริษัทจะทำการประมวลผลข้อมูลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด ดังต่อไปนี้
เมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน (Consent)
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งและได้รับความยินยอมจากท่านอย่างชัดแจ้ง
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อจำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ใน การดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา เช่น การให้บริการแก่ท่าน การปฏิบัติตามกระบวนการภายในของเราเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ในการปฏิบัติตามสัญญา
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
บริษัทมีการประมวลผลข้อมูลโดยมีเหตุผลเพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของของบริษัท เช่นการป้องกันและตรวจจับความผิดปกติของ ธุรกรรมที่นำไปสู่กิจกรรมที่ผิดกฎหมายการรายงานข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด
เพื่อประโยชน์สาธารณะ (Public Interest)
ในบางกรณีบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงาน ของรัฐให้ดำเนินการ
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
•บริษัทมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อการบริหารจัดการภายใน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูล ในกลุ่มธุรกิจเดียวกันเพื่อยกระดับมาตรฐานในการทำงานของบริษัทซึ่งการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลของบริษัทรวมถึงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้
•เพื่อป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำผิดกฎหมาย รวมถึงการบันทึกภาพในพื้นที่บริเวณโครงการหรือพื้นที่อื่นๆ เพื่อการ รักษาความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยภายในบริเวณดังกล่าว
•เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การเสนอสิทธิประโยชน์โดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการตลาด
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
•เพื่อทำรายการตามที่ท่านประสงค์ โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานของท่านของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ และคำร้องขอหรือความคิดเห็นที่ท่านได้ให้ไว้ เมื่อท่านลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัท หรือผ่านทางช่องทางอื่นๆ อาทิ กรอกเอกสาร แบบสอบถามเมื่อท่านแวะชมโครงการ เมื่อท่านติดต่อมายังบริษัทและแจ้งความประสงค์ให้ติดต่อกลับเพื่อให้ข้อมูลโครงการ หรือเพื่อดำเนิน การตามอื่นๆ ตามที่ท่านร้องขอ
•เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการ
•เพื่อดำเนินการตามสัญญากับคู่สัญญาที่บริษัทจัดจ้างหรือใช้บริการ
•เพื่อดำเนินการตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท
•เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ/หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดที่ท่านได้ให้ความยินยอม
ในกรณีที่ท่านเป็น ผู้ให้บริการภายนอก (Supplier/Outsource/Service Provider) บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญา เพื่อทำการจัดซื้อจัดจ้าง และตรวจสอบคุณภาพของสินค้าหรือบริการหรือเพื่อประเมิน ประสิทธิภาพของผู้ให้บริการอย่างไรก็ตาม การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะกระทำภายใต้เหตุผลที่กฎหมายรองรับ โดยอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนฐานทางกฎหมายที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล
การตลาด (Marketing)
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในด้านการตลาดและการโฆษณา เรามีกลไกการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
เพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการขาย
เราอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ข้อมูลทางเทคนิคและการใช้งาน (technical and usage data) และ ข้อมูลความสนใจ (profile data) ของท่านเพื่อวิเคราะห์และนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เหมาะสมให้กับท่านรวมถึงเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารนำเสนอสิทธิประโยชน์ และโปรโมชั่น ต่างๆ
ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับข้อมูลข่าวสารด้านการตลาดได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ โปรดดูรายละเอียดในหัวข้อ การยกเลิกการรับข้อมูลการตลาด (Opting Out) ด้านล่าง
การยกเลิกการรับข้อมูลการตลาด (Opting Out)
ท่านสามารถปฏิเสธไม่รับข่าวสารจากเราได้ โดยส่งอีเมล์มาที่ ในกรณีที่ท่านเลือกที่จะปฏิเสธไม่รับข่าวสารทางการตลาด การยกเลิก/ปฏิเสธนี้จะไม่มีผลกระทบต่อ ผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการแก่ท่านหรือธุรกรรมอื่นใดที่ท่านมีกับบริษัท
คุกกี้ (Cookies)
เว็บไซต์ของบริษัททำการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงเว็บไซต์ที่ให้บริการและสร้างข้อมูลโปรไฟล์เกี่ยวกับการเยี่ยมชม เว็บไซต์ของเราโดยไม่มีการเข้าถึงฮาร์ดไดรฟ์ของท่าน
โดยท่านสามารถจัดการฟังก์ชันคุกกี้ในหน้าการตั้งค่าของบราว์เซอร์ได้ เช่น การเลือกปิดคุ้กกี้บางประเภทตามที่ท่านต้องการหากท่าน ต้องการทราบวิธีการจัดการฟังก์ชันคุกกี้ โปรดไปยังเมนูช่วยเหลือในบราว์เซอร์ของท่านโดยการปิดฟังก์ชันคุกกี้อาจส่งผลกระทบต่อ ความสามารถของท่านในการทำธุรกรรม การใช้ฟังก์ชัน และ การเข้าถึงเนื้อหาบางอย่างบนเว็บไซต์ของเรา
3. รายละเอียดการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพการบริการ และ/หรือเพื่อเป็นช่องทางการ นำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการ, แจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ต่างๆ, ติดต่อสื่อสารเพื่อเชิญชวนเข้าร่วมงานกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ข้อมูลการตลาดและ/หรือโปรแกรมส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ หรือบริการ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท นิราวิลเลจ จำกัด และ บริษัท นิราวิลล์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
4. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของ ข้อมูลส่วนบุคคล (Data Security)
เรามีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเคร่งครัด และเคารพในความเป็นส่วนตัวของท่านรวมถึง ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
•จัดหมวดหมู่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลลับ (confidential information)
•มีมาตรการในการบริหารจัดการข้อมูล (Organizational Measure) และมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) เพื่อป้องกัน การดักฟัง ปลอมแปลงข้อความ การเข้าถึง การใช้งาน หรือการเปลี่ยนแปลงโดยมิได้รับอนุญาต เช่นระบบสารสนเทศในการรักษา ความปลอดภัย นโยบายการรักษาข้อมูลความลับของลูกค้า เป็นต้น
•พนักงาน ลูกจ้าง และผู้ให้บริการภายนอกของเรา (Supplier/ Outsource/ Service Provider)มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูล ส่วนบุคคลของลูกค้า ตามสัญญารักษาความลับที่ได้ลงนามไว้กับเรา
•จัดทำกระบวนการเพื่อจัดการกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (data breach) และจะแจ้งให้ท่านทราบหากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด โดยการดำเนินการจะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้การรับส่งข้อมูลทางอินเตอร์เนตยังคงมีข้อจำกัดในการดูแลรักษาความปลอดภัย แม้เราจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล อย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม เราจึงไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลที่ท่านเปิดเผยผ่านช่องทางออนไลน์ได้ดังนั้นเราจะไม่รับผิดชอบต่อ ความเสียหายหรือความสูญเสียที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อม จากการเข้าถึงข้อมูลโดยมิได้รับอนุญาต (unauthorized access) ที่ท่านให้ไว้ในเว็บไซต์ของเราเว้นแต่ในกรณีที่เราเป็นผู้ละเลย
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล (Data Retention)
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในการบรรลุวัตถุประสงค์ที่เรารวบรวมไว้กรณีที่ท่านสิ้นสุด ความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับเราไปแล้ว บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้ตามนโยบายการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท โดยมีระยะเวลา 10 ปี หรือตามความเหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อการตรวจสอบการให้สินค้าหรือบริการแก่ท่าน และเพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย ทั้งนี้เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว เราจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6. สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights)
ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านควรทราบโดยท่านสามารถยื่นคำร้องใช้สิทธิตามช่องทางการติดต่อที่เราได้ให้ไว้ ในหัวข้อ “7.ติดต่อเรา” เราจะดำเนินการตามคำร้องขอของท่านโดยเร็วที่สุดไม่เกิน 30 วัน หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับปริมาณและความซับซ้อนของ คำร้องขอ
สิทธิในการถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
•ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้โดยบริษัท จะหยุดการประมวลผลข้อมูลของท่านโดยเร็วที่สุดรวมถึงอาจทำการลบข้อมูลของท่านออกเว้นแต่ในกรณีที่บริษัทยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
•ท่านมีสิทธิขอทราบและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือ ขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ได้ซึ่งบริษัทจะดำเนินการตามที่ท่าน ร้องขอภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
•ท่านมีสิทธิขอให้เราดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)
•ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลที่เกี่ยวกับท่าน รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือขอรับข้อมูลที่เราส่ง หรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่มีเหตุผลอื่นใดที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการได้
สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ หรือ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีดังนี้
•เมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่มีความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป
•ท่านถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะทำการประมวลผลได้
•ท่านได้ทำการคัดค้านการประมวลผล
•มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอันมิชอบด้วยกฎหมาย
•เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล คัดค้านการประมวลผลข้อมูล(นอกเหนือจากที่เกี่ยวข้องกับการคัดค้านการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ การตลาดแบบตรง) และเราไม่มีเหตุแห่งการอ้างการประมวลผลโดยประโยชน์อันชอบธรรม
สิทธิในการห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)
ท่านมีสิทธิห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้
•เมื่อไม่มีความจำเป็นในการประมวลผลอีกต่อไป แต่การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลยังคงมีความจำเป็นเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
•เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอันมิชอบด้วยกฎหมายแต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต้องการห้ามมิให้มีการประมวลผลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตน
•เมื่ออยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ
•เมื่ออยู่ในระหว่างการพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล ในกรณี ดังนี้
•กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
•กรณีที่เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์หรือสถิติเว้นแต่ การจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ
•กรณีที่เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ด้วยเหตุจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วย กฎหมาย เว้นแต่บริษัทได้แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า
สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
•ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในกรณีที่บริษัท ลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล